357764420_280160934683260_4145778749413501647_n

ปลุกพลังก่อนทำงานพร้อมรับวันใหม่อย่างสดใส

เริ่มต้นเช้าของวันทำงาน ด้วยกิจกรรมที่กระตุ้นพลัง เพื่อพร้อมรับมือกับเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องเจอมากมาย
และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ออกกำลังกาย เพิ่มความ Active ในการทำงาน ด้วยการออกกำลังกายเบา ๆ ยามเช้า กิจกรรมที่ได้ทั้งสุขภาพ และกระตุ้นพลังได้เป็นอย่างดี

ฟังเพลง หรือ Podcast ระหว่างเดินทางไปทำงาน ลองเปิดหา Playlist เพลง หรือ Podcast ที่ชอบ เหมือนเป็นการเปิดรับสิ่งดี ๆ ให้สมองนั่นเอง

รับประทานอาหารเช้า มื้อสำคัญที่ไม่ควรเลี่ยง เพราะหากร่างกายได้รับอาหารก่อนทำงานจะถือเป็นการเพิ่มทั้งแรงกาย แรงใจและแรงความคิดได้เป็นอย่างดี

ทำงานที่กระตุ้นสมอง เลือกงานยาก หรืองานที่ต้องใช้ความคิดหนัก ๆ ยามเช้า เพราะถือเป็นช่วงที่ร่างกายพร้อมทำงานมากที่สุด และมีแรงฮึดที่จะทำงานอื่น ๆ ต่อไปได้ไม่ยาก งานจะดีได้ ต้องมาจากพลังกาย และใจที่เต็มร้อย แนะนำให้ไปปรับใช้ เพื่อเช้าวันใหม่ที่สดใสอย่างเต็มอิ่ม

0002_2

เผาผลาญพลังงานแบบชิล ๆ แบบไม่ต้องออกกำลังกาย

หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบ หรือมีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย ก็ต้องหันมาปรับพฤติกรรม การใช้ชีวิตประจำวันให้กระฉับกระเฉง โดยเพิ่มกิจกรรมขยับร่างกายเข้าไปในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ การจอดรถให้ไกลกว่าเดิม ลงรถโดยสาร ก่อนที่หมาย เลือกเข้าห้องน้ำที่ไกลขึ้น พักเบรคจากการทำงาน ลุกยืน ยืด เหยียด ขยับร่างกายทุกๆ 1-2 ชม. ยกน้ำหนักเบาๆขณะโทรศัพท์ เดินประชุม หรือ เลือกปรับโต๊ะทำงานให้อยู่ในท่ายืน

อีกส่วนนึงของพลังงานที่ร่างกายเผาผลาญเอาไปใช้คือการขยับ และเคลื่อนไหวร่างกาย แค่ วิ่งเหยาะ ขยับเท้า ยกมือ หรือแม้แต่นั่งหมุนปากาเล่นๆ ร่างกายก็เผาผลาญจำนวนนึงไปใช้แล้ว มีงานวิจัยแสดงว่า การขยับเคลื่อนไหวร่างกาย โดยไม่ใช่การออกกำลังกายนั้น สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 350 kcal ต่อวันเลยทีเดียว

ขยับแล้ว ต้องคุมเรื่องกินด้วย

การที่จะมีสุขภาพที่ดี และควบคุมน้ำหนักได้ ต้องมาจากการเลือกโภชนการที่ดีด้วย ในเมื่อเราเผาผลาญพลังงานได้น้อยกว่าคนที่ออกกำลังกายแบบจริงจัง ก็ต้องให้ความสำคัญต่อปริมาณพลังงานที่กินเข้าไป พยายามควบคุมให้เกิดสมดุลพลังงาน ระหว่างพลังงานที่กินเข้าไป และพลังงานที่เบิร์นออกไป ซึ่งหากสองสิ่งนี้สมดุลกัน ก็หมดกังวลเรื่องอ้วนไปได้เลย

ขอบคุณที่มา : https://www.lovefitt.com/exercise

0001

“ผมร่วง ผมบาง” ปัญหาที่กวนใจของผู้หญิง

     

      • 50% มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายมีฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจนสูงซึ่งมักจะมาจากกรรมพันธุ์ โดยลักษณะคือผมจะร่วงหรือบางบริเวณกลางศีรษะและด้านข้าง

      • สตรีภายหลังคลอดบุตร ผู้ที่มีอาการเครียดทางกายหรือทางอารมณ์ขั้นรุนแรง ผู้ที่ลดน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว ภายหลังจากสภาวะนั้น 2-3 เดือน เส้นผมจะหลุดร่วงได้มาก

      • โรคที่เกิดจากความผิดปกติทางฮอร์โมน เช่น โรคภูมิแพ้ โรคต่อมไทรอยด์

      • การได้รับยาบางชนิด เช่น ยารักษาสิว ความดัน หรือโรคข้อกระดูก

      • ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การสวมวิกผมและหมวกเป็นประจำจนหนังศีรษะร้อน การรวบผมตึง การดัดผม โกรกสีผม และภาวะรังแคซึ่งอาจจะเกิดจาก
        เชื้อรา หากไม่รักษาก็อาจส่งผลให้ผมร่วง ผมบาง จนกระทั้งศีรษะล้าน

        การรักษาอาการผมร่วงในผู้หญิง

      • การทำทรีตเมนต์เพื่อกระตุ้นให้การเกิดใหม่ของรากผมและบำรุงรักษาเส้นผมให้คงอยู่

      • การรักษาด้วยการปรับฮอร์โมนเพื่อลดอาการผมร่วม

      • ในกรณีผมแหว่งเป็นวงกลม อาจจะเกิดจากโรคภูมิแพ้ ซึ่งอาจจะต้องตรวจเลือดและมีการฉีดยารักษา

      • การทำเลเซอร์เพื่อแก้การเสื่อมสภาพของเส้นผมหรือกระตุ้นเส้นผมให้เกิดใหม่

      • การผ่าตัดปลูกผม จะทำให้กรณีที่เส้นผมในบริเวณนั้นเสียหายไปหมดแล้ว ไม่สามารถโตกลับมาได้อีก ปัจจุบันมีนวัตกรรมการแพทย์ล่าสุดสามารถปลูกผมโดยการใช้เครื่องปลูกผมที่เรียกว่า “Robot Hair Transplant” ซึ่งปลอดภัย รวดเร็วและไม่มีแผลเป็นหลังการผ่าตัด

    ขอบคุณที่มา : www.samitivejhospitals.com